เปิดประตูสู่ตลาดจีน ผ่าน 5 มณฑลที่มีมูลค่าการค้ากับไทยสูงสุด
จุดยุทธศาสตร์ใหม่ของผู้ประกอบการไทยในอนาคต
จีนยังคงเป็น คู่ค้าอันดับ 1 ของประเทศไทย ต่อเนื่องมาหลายปี ด้วยศักยภาพทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่และความเชื่อมโยงทางการค้าที่ลึกซึ้งระหว่างสองประเทศ โดยในปี 2568 (ข้อมูลเดือนมกราคม–สิงหาคม) พบว่า มณฑลที่มีมูลค่าการค้ากับไทยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กวางตุ้ง (Guangdong), เจียงซู (Jiangsu), เจ้อเจียง (Zhejiang), เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) และ ซานตง (Shandong) ซึ่งแต่ละมณฑลล้วนมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ของจีน และเป็นพื้นที่ที่ผู้ประกอบการไทยควรให้ความสนใจในการขยายตลาดและการลงทุนในอนาคต
🇨🇳 1. มณฑลกวางตุ้ง (Guangdong)
มูลค่าการค้ารวม: 24,068.51 ล้านเหรียญสหรัฐ
ดุลการค้าของไทย: ขาดดุล 2,347.52 ล้านเหรียญ
กวางตุ้งถือเป็น “ประตูเศรษฐกิจของจีนตอนใต้” และเป็นฐานการผลิตสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์มือถือ และยานยนต์
สินค้าหลักที่ไทยส่งออกไป ได้แก่ คอมพิวเตอร์ แผงวงจรไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ยาง และเครื่องจักรกล
โอกาสของผู้ประกอบการไทยอยู่ในกลุ่ม อุตสาหกรรมต่อยอด เทคโนโลยีการเกษตร และโลจิสติกส์ข้ามแดน โดยเฉพาะในเขต Greater Bay Area ที่เชื่อมฮ่องกง–มาเก๊า–เซินเจิ้น
🇨🇳 2. มณฑลเจียงซู (Jiangsu)
มูลค่าการค้ารวม: 16,076.67 ล้านเหรียญสหรัฐ
ดุลการค้าของไทย: ขาดดุล 9,602.75 ล้านเหรียญ
เจียงซูเป็นหนึ่งในมณฑลที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่งที่สุดของจีน เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีขั้นสูง สินค้าที่ไทยส่งออกไปได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า เหล็ก เครื่องจักรกล และยางพารา
ในทางกลับกัน ไทยนำเข้า คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จากเจียงซูจำนวนมาก
โอกาสของผู้ประกอบการไทยอยู่ที่การ เชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า
🇨🇳 3. มณฑลเจ้อเจียง (Zhejiang)
มูลค่าการค้ารวม: 13,132.63 ล้านเหรียญสหรัฐ
ดุลการค้าของไทย: ขาดดุล 5,156.80 ล้านเหรียญ
เจ้อเจียงเป็นเมืองศูนย์กลางของ “อีคอมเมิร์ซจีน” มีเมืองหางโจวเป็นที่ตั้งของ Alibaba และบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ
สินค้าส่งออกของไทยที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหาร เครื่องจักร และยาง
ในขณะที่สินค้านำเข้าหลักคือ เครื่องจักรกล ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และสิ่งทอ
สำหรับผู้ประกอบการไทย นี่คือพื้นที่ที่เหมาะแก่การต่อยอด สินค้าเกษตรแปรรูป นวัตกรรมอาหาร และธุรกิจออนไลน์ข้ามพรมแดน (Cross-border e-Commerce)
🇨🇳 4. นครเซี่ยงไฮ้ (Shanghai)
มูลค่าการค้ารวม: 9,103.93 ล้านเหรียญสหรัฐ
ดุลการค้าของไทย: เกินดุล 8.62 ล้านเหรียญ
เซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางการเงิน การขนส่ง และท่าเรือสินค้าระดับโลก มีบทบาทสำคัญในการกระจายสินค้าทั้งภายในและภายนอกประเทศจีน
สินค้าส่งออกของไทยคือ แผงวงจรไฟฟ้า ยางพารา ผลิตภัณฑ์พลาสติก และอาหารแปรรูป
เซี่ยงไฮ้จึงเป็นตลาดที่ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายในด้าน อาหารสุขภาพ สินค้าพรีเมียม และอุตสาหกรรมบริการโลจิสติกส์
🇨🇳 5. มณฑลซานตง (Shandong)
มูลค่าการค้ารวม: 7,226.64 ล้านเหรียญสหรัฐ
ดุลการค้าของไทย: ขาดดุล 2,614.35 ล้านเหรียญ
ซานตงเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมหนักและสินค้าเกษตรขนาดใหญ่ทางตอนเหนือของจีน
สินค้าหลักที่ไทยส่งออกไป ได้แก่ เหล็ก ยางพารา อาหารทะเล และสินค้าเกษตรแปรรูป
ส่วนสินค้านำเข้าจากซานตงคือ เครื่องจักรกล เคมีภัณฑ์ และเครื่องมืออุตสาหกรรม
โอกาสอยู่ในภาค เกษตรเทคโนโลยี การแปรรูปอาหาร และอุตสาหกรรมสีเขียว
📈 แนวโน้มและโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทย
ตลาดจีนยังคงมีความต้องการสูงในสินค้าเกษตรคุณภาพ อาหารแปรรูป วัตถุดิบอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ขณะเดียวกัน มณฑลต่างๆ มีนโยบายเปิดกว้างต่อการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจ B2B, อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน, โลจิสติกส์ และนวัตกรรมสีเขียว
การเข้าใจลักษณะเฉพาะของแต่ละมณฑล จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถกำหนด กลยุทธ์การเจาะตลาดจีนอย่างแม่นยำ ทั้งในด้านสินค้า การตลาด และการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ
📊 ที่มา: คิดค้า.com (ข้อมูล ณ ส.ค. 2568)
🖋️ จัดทำโดย สถาบันเศรษฐกิจและการลงทุนไทย–จีน (TCEII) สายงานการค้าและการลงทุน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
📅 เผยแพร่เดือนพฤศจิกายน 2568
